วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

โรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต



 ทฤษฏีพัฒนาการของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต


ทฤษฏีงานพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต
แนวคิดของโรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
            ศาสตราจารย์โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส (Robert havighurst 1953-1972) ได้ให้ชื่อว่า งานที่มนุษย์ทุกคนจะต้องทำตามวัยว่า งานพัฒนาการ หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต สัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป
            ในการสร้างทฤษฎีงานพัฒนาการ  ฮาวิกเฮิร์ส  ถือว่าการพัฒนาการของมนุษย์ไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยทางสรีระหรือชีวะแต่เพียงอย่างเดียว  สังคมและวัฒนธรรม และปัจจัยทางจิตวิทยาของแต่ละบุคคลมีอิทธิพลในการพัฒนาการของบุคคลด้วย  ดังนั้น ฮาวิกเฮิร์ส ได้สรุปว่าตัวแปรที่สำคัญในการพัฒนามี 3 อย่าง
1. วุฒิภาวะทางร่างกาย
2. ความมุ่งหวังของสังคมและกลุ่มที่แต่ละบุคคลเป็นสมาชิกอยู่
3. ค่านิยม แรงจูงใจ ความมุ่งหวังส่วนตัวและความทะเยอทะยานของแต่ละบุคคล
     3.1 ความพร้อมเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (Natural Readiness Approach)
     3.2 ความพร้อมเกิดจากการกระตุ้น (Guided Experience Approach)
การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์
พัฒนาการของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ
1. พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน
2. พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา (Cognitive Development) ของเพียเจท์
3. พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น
     3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) ของฟรอยด์ (Freud)
     3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) ของอีริคสัน (Erikson)
4. พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ของโคลเบริ์ก (Kohlberg)
พัฒนาการตามวัย
               ตามแนวความคิดของฮาวิคเฮอร์ท (Hovighurst) ได้แบ่งพัฒนาการของมนุษย์ออกเป็นวัยต่างๆได้ดังนี้
1. วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี)
- เรียนรู้ที่จะเดิน
-เรียนรู้ที่จะรับประทาน
-เรียนรู้ที่จะสร้างความผูกพันตนเองกับพ่อแม่  เป็นต้น
2. วัยเด็กตอนกลาง ( 6-12 ปี )                 
- เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากันได้กับเพื่อนรุ่นเดียวกัน                  
- สามารถช่วยตนเองได้                                                                                     
- พัฒนาทักษะพื้นฐานในการอ่าน เขียน และคำนวณ เป็นต้น
3. วัยรุ่น (12-18 ปี)
- รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
- สามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นในสังคมได้
- มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมได้
4. วัยผู้ใหญ่ตอนต้น ( 18-35 ปี)
- มีการเลือกคู่ครอง
- รู้จักจัดการภารกิจในครอบครัว
5. วัยกลางคน (35-60 ปี)
-  รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์       
- เรียนรู้ที่จะยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
 6. วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป)                                                                                          
- สามารถรับตัวได้กับสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง              
- ปรับตัวได้กับการที่ต้องเกษียณอายุตลอดจนเงินเดือนลดลง
หลักพัฒนาการแนวคิด
- สามารถที่จะแสดงบทบาททางสังคมได้เหมาะสมกับเพศของตน
- เลือกและเตรียมตัวที่จะเลือกอาชีพในอนาคต
- พัฒนาทักษะทางเชาว์ปัญญาและความคิดรวบยอดต่างๆที่จำเป็นสำหรับสมาชิกของชุมชนที่มีสมรรถภาพ
- มีความต้องการที่จะแสดงพฤติกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
การนำไปประยุกต์ใช้
                สามารถสังเกตพัฒนาการต่างๆของเพื่อนๆและคนรอบข้าง เพื่อให้รู้จักนิสัยใจคอมากขึ้น และใช้เทคโนโลยี สารสนเทศที่เกี่ยวทางการศึกษาและการสืบค้นหรืออื่นๆได้

ทษฤฎีพัฒนาการของฮาวิกเฮอร์ท

1. " ไลลา มีพัฒนาการทางด้านการเปล่งเสียง การพูด " แสดงว่าไลลา อยู่ในช่วงวัยใด ของการแบ่งพ้ฒนาการของฮาวิคเฮอร์ท
                 ก. วัยเด็กตอนกลาง                            ข. วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น
                 ค. วัยรุ่นตอนต้น                                ง. วัยรุ่นตอนปลาย
2.เด็กที่มีพัฒนาการในเรื่องการปรับตัวเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกัน อยู่ในช่วงอายุใด
                ก. แรกเกิด-3ปี                                     ข. แรกเกิด-6ปี
                ค. 6- 12ปี                                             ง. 12-18ปี
3."แบงค์ มักจะเข้าหาเพื่อนๆ เมื่อคุณครูให้ทำงานเป็นกลุ่ม" แบงค์อยู่ในช่วงวัยใด
                ก.วัยเด็กเล็ก                                          ข.วัยเด็กตอนต้น
                ค.วัยเด็กตอนกลาง                              ง.วัยรุ่นตอนต้น
4. ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายวัยรุ่นจะคิดในเรื่องใดเป็นหลัก
                ก.รานีตั้งใจเรียนหมั่นอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบบรรจุข้าราชการเพื่ออาชีพครูที่มั่นคง
                ข.โนร์ดิงคิดที่จะอยู่ติดกับครอบครัวโดยจะให้เเม่เป็นที่ปรึกษา
                ค.ฟารุดเริ่มรู้จักโลกส่วนตัวสูงไม่ชอบเข้าสังคมกับเพื่อน
                ง.วินัยคิดที่จะโมโหใส่เพื่อนตลอดเวลา
5. ในช่วงวัยใดที่วีน่าและริฏวันเริ่มเลือกคนรู้ใจมาเป็นคู่ชีวิตและพร้อมที่จะใช้ชีวิตกับคู่เเต่งงาน
                ก.วัยรุ่นตอนต้นและตอนปลาย( 12-18)                         ข.วัยผู้ใหญ่ตอนต้น(18-35)
                ค.วัยกลางคน(35-60)                                                      ง.วัยชรา60ปีขึ้นไป
6. ในช่วงวัยรุ่นตอนต้นและตอนปลายข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
                ก.อาซฮาไม่ยอมรับข้อเสนอจากเพื่อนๆทุกประการ
                ข.ฟาตินกับไฟซอลรู้จักรับผิดชอบต่อการวางตัวในสังคม
                ค.นูรมีชอบเเย่งของกับน้องเพราะถือว่าเป็นพี่
                ง.กามีชอบใช้ความรุนเเรงกับเพื่อนตลอดโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ
7.เด็กมีความคิดรวบยอดง่ายๆเกี่ยวกับความจริงทางสังคมและทางกายภาพ ผู้ใหญ่จะต้องจัดหาสิ่งต่างๆให้กับเด็ก เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้มีประสบการณ์กับสิ่งต่างๆรอบตัว การกระทำในข้อใดทำให้เด็กมีทัศนคติที่ไม่ดีในการใช้ชีวิตประจำวัน
                ก. น้องอ้อยไม่เข้าใจเกี่ยวกับเพศตรงข้ามและการมีครอบครัว จึงไปถามพ่อ แต่พ่อดุและไม่อธิบาย เพราะคิดว่าน้องอ้อยยังเป็นเด็กและกลัวว่าจะไปให้ความสนใจกับเพศตรงข้ามมากไป
                ข. น้องวิน ชอบดูการ์ตูนมากจนเป็นเด็กติดการ์ตูน แม่จึงมานั่งดูเป็นเพื่อนและคอยชี้แนะในทางที่ถูกต้อง
                ค. พ่อพาน้องพลอยไปสนามเด็กเล่น น้องพลอยหกล้มและร้องไห้ แต่พ่อไม่ช่วยปล่อยให้น้องพลอยเอาตัวรอดด้วยตนเอง คอยมองดูอย่างใกล้ชิด
                ง. น้องเมย์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใครๆก็บอกว่าน้องพลอยเป็นเด็กดีไม่เกเร แม่จึงซื้อของเล่นให้น้องเมย์เพื่อเป็นรางวัลของการเป็นเด็กดี ทำให้น้องเมย์ชอบใจในการทำดียิ้มแย้มแจ่มใส

8. สมชาย มีความพยายามสร้างฐานะทางเศรษฐกิจ เพื่อความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว แต่สมชายขาดโอกาสในการใช้ชีวิต เนื่องจากสมชายเป็นคนยากจน จะส่งผลกระทบในวัยชราอย่างไร
                ก. สมชายใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นอยู่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
                ข. สมชายใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพื่อปกปิดความทุกข์ของตนเอง
                ค. สมชายใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขแต่สามารถปรับตัวได้กับการตายจากของคู่ครอง
                ง. สมชายใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขรู้สึกท้อแท้ในการใช้ชีวิตประจำวัน
9. มานะรำพึงถึงชีวิตของตนเองมาว่า "นับตั้งแต่เกิดมา มานะได้ผ่านวัยทารก วัยเด็ก วัยหนุ่มสาว วัยผู้ใหญ่ และบรรลุถึงวัยสูงอายุแล้ว" มานะยิ้มอย่างมีความสุข เกิดความภูมิใจในตนเอง ข้อใดเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้มานะมีความสุขในวัยสูงอายุ
                ก.ได้รับการศึกษาเล่าเรียนที่ดกลายเป็นผู้มีความรู้ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะดี
                ข.ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างอบอุ่นและดูแลอย่างใกล้ชิด
                ค.มีอาชีพ การงาน และรากฐานของครอบครัวอันมั่นคง
                ง.มองโลกในแง่ดีเสมอ ทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้คนรอบข้างอยูเสมอ
10. คุณธรรม จริยธรรม ความถูกต้องดีงาม ควรปลูกฝังในวัยใดจึงจะได้ผลดีที่สุด
                ก.วัยเด็กตอนต้น
                ข.วัยเด็กตอนกลาง
                ค. วัยรุ่น
                ง.ปลูกฝังได้ในทุกๆวัย
เฉลยแบบทดสอบทฤษฎีพัฒนาการของฮาวิกเฮิร์ท
      1. ก              2. ข     
      3. ค              4. ก      
      5. ข              6. ข     
      7. ก              8. ค      
      9. ข            10.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น